tag:blogger.com,1999:blog-59433417777535706592024-03-08T17:42:09.298-08:00สื่อการสอนวิชาสุขศึกษาAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/05176858484983092417noreply@blogger.comBlogger3125tag:blogger.com,1999:blog-5943341777753570659.post-2520021269444414852012-06-27T19:38:00.004-07:002012-06-27T19:38:58.436-07:00Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05176858484983092417noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5943341777753570659.post-37137840450109610842012-06-27T19:34:00.003-07:002012-06-27T19:34:38.000-07:0010 วิธีการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี<table align="center" bgcolor="#b2d5f7" border="0" cellpadding="8" cellspacing="0" class="content_normal_th" style="width: 600px;"><tbody>
<tr align="center" valign="middle"><td colspan="2"><div align="left">
<span class="more_th"><strong>10 วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี</strong></span></div>
</td>
</tr>
<tr>
<td colspan="2" height="7"><div align="left">
<table border="0" cellspacing="5">
<tbody>
<tr>
<td class="more_th"><div align="right" class="more_th">
</div>
<div align="center" class="more_th">
<img height="264" src="http://www.tistr-foodprocess.net/image_2008/image_food_health2008/health1_july08.gif" width="200" /></div>
<div class="more_th">
ในแต่ละวันเราจำเป็นต้องรับประทานอาหารมากมาย
มีคำแนะนำจากหลายสำนักให้กินนั่น ห้ามกินนี่จนไม่รู้จะเชื่อใครดี
วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับง่ายๆ
ของการกินให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพอย่างเต็มที่มาฝาก </div>
<div class="more_th">
<strong> 1. กินอาหารเช้า </strong>
เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน
และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
ช่วยเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง </div>
<div class="more_th">
<strong> 2. </strong><strong>เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร </strong>
ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน
ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิมที่เคยใช้ เพราะเป็นไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย
และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์
ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี </div>
<div class="more_th">
<strong> 3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น </strong>
คนเราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ)
เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย
รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว </div>
<div class="more_th">
<strong> 4. เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก </strong>
ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้
ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผักใบเขียว
เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและ
กระดูก ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ</div>
<div class="more_th">
<strong> 5. </strong><strong>บอกลาขนมและของกินจุบจิบ </strong>
ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง
แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยในผลไม้
มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ </div>
<div class="more_th">
<strong> 6. </strong><strong>สร้างความคุ้นเคยกับการกินธัญพืชและข้าวกล้อง </strong>
เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย
รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว
พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว
เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล </div>
<div class="more_th">
<strong> 7. </strong><strong>จัดน้ำชาให้ตัวเอง </strong>
ทั้งชาดำ ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์
ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว
ช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30% </div>
<div class="more_th">
<strong> 8. </strong><strong>กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติมี </strong>
คุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่า สีแดงมะเขือเทศ
สีม่วงองุ่น สีเขียวบล็อกเคอรี สีส้มแครอท
อย่ายึดติดอยู่กับการกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน
มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณด้วย </div>
<div class="more_th">
<strong> 9. </strong><strong>เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา </strong>
การกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง
เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน
ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบำรุงเซลล์สมอง
ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อย ย่อยง่าย
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด </div>
<div class="more_th">
<strong> 10. </strong><strong>กินถั่วให้เป็นนิสัย </strong>
ทำให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสัก 2 ช้อน
ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีน วิตามิน
และแร่ธาตุสำคัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่วเหล่านี้
ควรกินถั่วอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะมีแคลอรี่สูง
อาจทำให้อ้วนได้ </div>
<div class="more_th">
ถ้าปฏิบัติให้ได้ครบทุกข้อตามคำแนะนำข้างต้นนี้จนเป็นนิสัย สุขภาพดีๆ จะไปไหนเสีย !! </div>
<br />
<div class="more_th">
<strong> </strong></div>
<div class="more_th">
<br /></div>
<div class="more_th">
<br /></div>
<div class="more_th">
<strong> ที่มา :</strong> ผู้จัดการออนไลน์ 7 กรกฎาคม 2551 11:11 น. http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9510000079603 </div>
</td></tr>
</tbody></table>
</div>
</td></tr>
</tbody></table>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05176858484983092417noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5943341777753570659.post-65155712587296826542012-06-27T19:27:00.002-07:002012-06-27T19:27:56.492-07:00<div style="color: #0b5394;">
<b style="font-family: "Helvetica Neue",Arial,Helvetica,sans-serif;">เสริมสร้างร่างกาย</b>
</div>
<div style="color: #0b5394; font-family: "Helvetica Neue",Arial,Helvetica,sans-serif;">
<b>๑. การออกกำลังกาย</b></div>
<div style="color: #0b5394; font-family: "Helvetica Neue",Arial,Helvetica,sans-serif;">
<b>การออกกำลังกายทำให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดี
และมีจิตใจที่ แจ่มใส ดังนั้น เราจึงควรออกกำลังกายเป็นประจำการออกกำลังกายทำให้หลายวิธี เช่น
วิ่งเล่นกลางสนาม เล่นกีฬาต่าง ๆ ทำงานบ้านที่ต้องออกแรง เป็นต้น</b></div>
<div style="color: #0b5394; font-family: "Helvetica Neue",Arial,Helvetica,sans-serif; font-weight: bold;">
<b>การออกกำลังกายที่ถูกวิธี
ควรปฎิบัติดังนี้</b></div>
<div style="color: #0b5394; font-family: "Helvetica Neue",Arial,Helvetica,sans-serif;">
<b>๑. ควรออกำลังกายตอนเช้า
หรือตอนเย็น<br />๒. ไม่ควรออกกำลังกายกลางแดดจัด ๆ
เพราะจะทำให้ไม่สบาย<br />๓.
ควรออกกำลังกายครั้งละไม่ต่ำกว่า ๓๐ นาที<br />๔.
ไม่ควรออกกำลังกายมากจนรู้สึกเหนื่อยเกินไป<br />๕.
ไม่ควรออกำลังกายในสถานที่ที่อันตราย<br />๖. หลังออกกำลังกาย
ควรพักสักครู่ก่อน แล้วจึงอาบน้ำ</b></div>
<div style="color: #0b5394; font-family: "Helvetica Neue",Arial,Helvetica,sans-serif;">
<b><span style="font-weight: bold;">๒.
การพักผ่อน</span><br />การพักผ่อน
คือการปฎิบัติตนเพื่อลดความเหนี่อยล้าของร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
โดยเฉลี่ยผู้ใหญ่ต้องการนอนวันละ ๗- ๙ ชั่วโมง เด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี
ต้องการนอนวันละ ๑๐ ชั่วโมง</b></div>
<div style="color: #0b5394; font-family: "Helvetica Neue",Arial,Helvetica,sans-serif;">
<b><span style="font-weight: bold;">๓.
กิจกรรมนันทนาการ</span><br />กิจกรรมนันทนาการ
เป็นกิจกรรมที่ทำในเวลาว่างและเป็นกิจกรรมที่เราชื่นชอบ เช่น อ่านหนังสือ วาดภาพ
เล่นเกม เล่นกีฬา ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นต้น
การทำกิจกรรมนันทนาการจะทำให้เราเพลิดเพลิน และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์</b></div>
<div style="color: #0b5394; font-family: "Helvetica Neue",Arial,Helvetica,sans-serif;">
<b><br /></b></div>
<b style="color: #0b5394; font-family: "Helvetica Neue",Arial,Helvetica,sans-serif;"><span style="font-weight: bold;">ขอขอบคุณเนื้อหาจาก บริษัทอักษรเจริญทัศน์</span><br style="font-weight: bold;" /><span style="font-weight: bold;">จากหนังสือ แม่บทมาตรฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๑ พิมพ์ครั้งที่ ๒</span></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05176858484983092417noreply@blogger.com0